
สวัสดีเพื่อนนักลงทุน เชื่อว่าทุกคนกำลังหาแหล่งออมเงินสำหรับลงทุนอยู่ใช่มั๊ยล่ะ เนื่องจากปัจจุบันออมเงินไว้ในธนาคารดอกเบี้ยน้อยมาก ๆ ฝากไว้ก็ไม่ชนะเงินเฟ้ออีก ปัจจุบันดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ตกอยู่ 0.25 % (ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อ 18/02/65)
ดังนั้นบทความนี้จะพาไปดูแหล่งออมเงินแบบไหนดี ? ที่เหมาะกับนักออมเงินและนักลงทุน มีตั้งแต่เสี่ยงน้อยไปจนถึงเสี่ยงมาก สามารถเลือกได้ตามความสบายใจ ถ้าพร้อมกันแล้วไปรับชมเนื้อหาเต็มกัน
ออมเงินในแอพ kept by krungsri
ออมเงินด้วยแอพ kept by krungsri ทางแอพจะมีกระเป๋าและกระปุกรวมกันทั้งสิ้น 4 อย่างด้วยกัน
1. Kept savings เป็นบัญชีแยกเงินสำหรับใช้ โอนฟรีกี่ครั้งก็ได้

2. Grow savings จะได้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.5 % ต่อปี แอพ kept by krungsri จ่ายดอกเบี้ยทุกวันที่ 28 ของเดือน โดยเงินที่ได้จะถูกโอนเข้าไปในกระเป๋า Kept savings เมื่ออยากถอนเงินออก สามารถถอนออกได้โดยไม่มีเงื่อนไข แต่ขั้นต่ำในการฝากเงินเข้ากระเป๋า Grow savings ต้องเป็นเงินจำนวนขั้นต่ำ 1,000 บาท

3. Fun savings เป็นกระปุกแอบเก็บเงินของเราโดยอัตโนมัติ กระปุก Fun savings มีตั้งค่าแอบเก็บอยู่ 3 วิธี 1. แบบจำนวนเงิน 2. แบบเปอร์เซ็นต์ 3. แบบปัดเศษ และพิเศษไปกว่านั้นเมื่อแอบเก็บเงินครบ 10 ครั้ง คุณจะได้รับดอกเบี้ย 1 % ต่อปี ในเดือนถัดไป (เงินสามารถโอนออกได้เมื่อเราต้องการโดยไม่มีเงื่อนไข)

4. Together savings เป็นกระปุกจัดการ และวางแผนการเงิน เพื่อทำตามเป้าหมาย ไม่ว่าจะตั้งเป้าหมายออมเงิน ลงทุน เที่ยว ซื้อของ สามารถชวนเพื่อนมาร่วมดูได้ แต่เพื่อนจะไม่สามารถถอนเงินออกจากกระปุกของเราได้ เพื่อนสามารถโอนเงินเข้า และดูยอดเงินเข้าออกได้เท่านั้น จะมีเพียงเจ้าของกระปุกเท่านั้นที่สามารถนำเงินออกไปใช้ได้

แอพ kept by krungsri เหมาะกับการนำเงินกึ่งเย็นมาเก็บ เช่น เงินสำรองฉุกเฉิน 6 – 12 เดือน เพราะแอพนี้สามารถนำเงินออกเมื่อไหร่ก็ได้ แถมให้ดอกเบี้ยเยอะกว่าฝากธนาคารธรรมดาทั่วไป โดยส่วนตัวแอดไม่แนะนำให้ลงทุนในนี้ระยะยาว เพราะไม่ชนะเงินเฟ้ออยู่ดี แถมโดนภาษีเยอะด้วยถ้าได้ดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนด
ขอบคุณภาพจาก : kept by krungsri
ซื้อสลากออมสิน
เป็นรูปแบบการออมเงินสำหรับคนชอบลุ้น ชอบเสี่ยงดวง เหมาะสำหรับใครที่ชอบเล่นหวย และอยากเลิกเล่นเพื่อให้มีเงินเก็บมากขึ้น ทางเราขอแนะนำให้เปลี่ยนจากซื้อลอตเตอรี่ มาซื้อฉลากออมสินแทน เนื่องจากซื้อสลากออมสินจะไม่เสียค่าฉลากเมื่อไม่ถูกรางวัล แต่ถ้าเราถูกรางวัล เราจะได้รับเงินเข้าบัญชีโดยตรง เงินรางวัลมีดังนี้

รางวัลที่ 1 รางวัลละ 3,000,000 บาท
รางวัลที่ 2 รางวัลละ 100,000 บาท
รางวัลที่ 3 รางวัลละ 2000 บาท
รางวัลที่ 4 รางวัลละ 800 บาท
รางวัลที่ 5 รางวัลละ 200 บาท
รางวัลเลขท้าย 4 ตัว รางวัลละ 20 บาท
ถ้าคุณเป็นคนไม่ชอบความเสี่ยง สลากออมสินเป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับเป็นที่พักเงินไร้ความเสี่ยง เมื่อคุณซื้อสลากประมาณ 100,000 – 200,000 บาท คุณมีโอกาศถูกรางวัลทุกงวดแน่นอน ลองไปพิจารณาดูนะครับ ว่าชอบรูปแบบการออมเงินนี้หรือเปล่า ?
ขอบคุณภาพจาก : GSB
เงินฝากปลอดภาษี
เงินฝากปลอดภาษีให้ดอกเบี้ยค่อนข้างดีกว่าเงินฝากประจำ แถมไม่เสียภาษีอีกด้วย ใครที่ออมเงินมาได้สักระยะ แต่ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรดี ลองนำเงินมาใส่ในบัญชีเงินฝากปลอดภาษีหน่อยไหม แต่ละธนาคารก็ให้ดอกเบี้ยต่างกัน
ข่าวล่าสุดวันที่ 18 มกราคม 2565 ธนาคารไทยเครดิต ให้ดอกเบี้ยเงินฝาก 24 เดือน (ต่อปี) 2.00 % และดอกเบี้ยเงินฝาก 36 เดือน (ต่อปี) 2.15% ฝากขั้นต่ำ 1,000 เท่านั้น ส่วนธนาคารอื่น ๆ ให้ดอกเบี้ยเงินฝากปลอดภาษีตั้งแต่ 1.30% – 2.15% ฝากขั้นต่ำ 500 – 15,000 บาทขึ้นไป (แล้วแต่นโยบายที่ธนาคารกำหนด)
ออมทอง
ประเทศไทยรู้จักทองมาตั้งแต่รุ่นพ่อ รุ่นแม่ การออมทองเป็นการลงทุนอย่างหนึ่งของคนสมัยก่อน ปัจจุบันก็ยังสามารถเปลี่ยนจากออมเงินมาเป็นออมทองได้ เมื่อนำสถิติย้อนหลัง 10 ปี ของทองคำ ตั้งแต่ปี 2551 – 2560 จะได้ผลตอบแทนต่อปีเฉลี่ย 4.50 % (ที่มา SETSMART / BOT / ThaiBMA และ Reuters) การนำเงินมาลงทุนในทองคำสามารถชนะเงินเฟ้อได้ เพียงแต่ต้องศึกษาข้อมูลดี ๆ ก่อนลงทุนทุกครั้ง

พันธบัตรรัฐบาล (Government Bond)
นำเงินไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล เราจะได้สถานะเป็นเจ้าหนี้ของรัฐบาล โดยฝั่งรัฐบาลจะเป็นผู้ชำระเงินคืนในรูปแบบ ดอกเบี้ย การลงทุนในพันธบัตรความเสี่ยงค่อนข้างน้อย แถมลงทุนไม่ยาก ระยะเวลาลงทุนสามารถเลือกได้ ไม่ว่าจะเป็น 1 ปี 3 ปี 5 ปี 7 ปี ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งลงทุนระยะยาว ก็ย่อมต้องมีความเสี่ยงมาบ้างเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง ความเสี่ยงด้านสภาวะเงินเฟ้อ
กองทุนรวม
กองทุนรวมคือ เงินลงทุนจากนักลงทุนทุกคน มารวมกันเป็น “กองทุนรวม” ส่วนที่เหลือผู้จัดการกองทุนจะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ แทนนักลงทุนตามที่ตกลงไว้ เมื่อได้รับผลตอบแทน ทางกองทุนจะเฉลี่ยเงินคืนให้ตามสัดส่วนที่ลงทุนไว้ กองทุนรวมเหมาะกับการออมเงินและลงทุนระยาวเป็นอย่างมากมาก ส่วนความเสี่ยงมี 3 ระดับดังนี้
1. ความเสี่ยงต่ำ มี กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ กองทุนรวมตลาดเงิน กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล กองทุนรวมตราสารหนี้
2. ความเสี่ยงปานกลาง มี กองทุนรวมผสม กองทุนรวมตราสารทุน กองทุนรวมตามหมวดอุตสาหกรรม
3. ความเสี่ยงสูง กองทุนรวมทางเลือก
ชอบกองทุนไหนลองไปศึกษากองทุนนั้นดูนะครับ อย่าลืม! ยิ่งความเสี่ยงน้อย ผลตอบแทนยิ่งน้อย ยิ่งความเสี่ยงมากเท่าไหร่ ผลตอบแทนและโอกาสขาดทุนจะมากตามไปด้วยเช่นกัน อยู่ที่เราวิเคราะห์และพิจารณาในการลงทุนแล้วครับ
ออมหุ้น
ลงทุนหุ้น ความเสี่ยงสูงมีโอกาสได้กำไรและขาดทุนในเวลาเดียวกัน ถ้าถามว่าซื้อหุ้นเหมือนกับการออมเงินตรงไหน ? จะบอกว่า มีวิธีเล่นหุ้นแบบหนึ่งที่คล้ายกับ การนำเงินมาออมเรื่อย ๆ แถมได้ผลตอบแทนแบบสมน้ำสมเนื้อ นั่นคือการ DCA
DCA ย่อมาจาก Dollar-Cost Averaging เป็นวิธีลุงทุนแบบหนึ่งในการซื้อหุ้น ที่ถัวเฉลี่ยนต้นทุน โดยนักลงทุนจะลงทุนแบบเดิมซ้ำ ๆ ต่อเนื่องในแต่ละงวด ด้วยเงินจำนวนเท่า ๆ กัน โดยไม่สนราคาว่า จะขึ้นหรือลง ซึ่งวิธีนี้เป็นการตัดอารมณ์ และความรู้สึกออกไป ทำให้ลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอเพื่อสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว

ขอบคุณภาพจาก : SET
ท้ายสุดนี้ คุณชอบความเสี่ยงระดับไหน คุณก็ควรนำเงินไปลงทุนความเสี่ยงระดับนั้น อย่าทำตามคนอื่น เพราะเห็นคนอื่นทำแล้วดี ทำแล้วรวย บางทีคุณออมเงินมาตั้งนาน แต่ลงทุนผิดที่ ผิดทาง อาจทำให้เกิดความเสียหายหนักได้ เราควรเลือกลงทุนในสิ่งที่เราสบายใจ เพราะชีวิตมนุษย์ของเรานั้น ไม่ได้ต้องการเงินทองมากมาย
ส่วนมากเกิดมาอยากให้ชีวิตมีความสุข เอาเป็นว่า บทความที่เขียนนี้ เอาไว้สำหรับนำเงินเย็นที่ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร มาสร้างเส้นทางรายได้เพิ่ม โดยใช้เงินทำงานแทนเรา ก่อนจากกันไป ขอให้ทุกคนสมหวังในการนำเงินไปลงทุนต่อยอดกันทุกคนนะครับ แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าสวัสดีครับ ^^